ความรู้เรื่องเกษตร

   

 หยุด! ปัญหาข้าวใบเหลือง ขอบใบม้วน




 

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมักประสบปัญหาข้าวใบเหลือง ขอบใบม้วน วันนี้แอดมีวิธีการหยุดปัญหาดังกล่าวมาฝาก ต้องทำอย่างไรนั้น ตามมาเลยค่ะ

นอกจากธาตุอาหารหลักของข้าวอย่าง N-P-K หรือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปแตสเซียมแล้ว ยังมีธาตุรองและธาตุเสริมอีกจำนวนหนึ่ง ถ้าเราลองศึกษาและรู้เพียงใช้เวลาไม่มาก จะสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวได้ดี คุ้มค่ากับการลงทุนลงแรงปลูกมากเลย

ปุ๋ยทั่วๆไป มักจะให้เฉพาะ ธาตุหลัก N-P-K เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หมายความว่า ให้ N หรือธาตุไนโตรเจน 15% ให้ P หรือธาตุฟอสฟอรัส 15% และให้ K หรือธาตุโปแตสเซียม 15% ส่วนธาตุรองและธาตุเสริมอื่นๆ มักจะไม่มี อาจเป็นเพราะว่า ธาตุหลัก 3 ตัวนี้ จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของพืชมากที่สุด ส่วนธาตุรองและธาตุเสริม มีเพียงพออยู่แล้วในดิน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การปลูกพืช เช่นการทำนา ซ้ำๆ หลายปี มากกว่า 3 ปีขึ้นไป ติดต่อกันไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้มีการปลูกพืชอื่นๆหมุนเวียน และเราให้ปุ๋ยที่ให้เฉพาะธาตุอาหารหลัก N-P-K ซ้ำลงไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยเติมธาตุรองธาตุเสริมอื่นๆเลย

นั่นหมายความว่า ธาตุรองธาตุเสริมต่างๆ ที่จำเป็นต่อพืช ถูกพืชดึงไปใช้ทุกๆครั้งที่ปลูก จึงค่อยๆหมดไป และที่สำคัญ มีธาตุรองธาตุเสริมหลายตัวเลย ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ตามกระบวนการธรรมชาติ จึงทำให้ค่อยๆหมดไป จนถึงวันหนึ่ง มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช

ถ้าเราสังเกตุได้ว่า เราใส่ปุ๋ยธาตุหลัก เท่าเดิมทุกปี แต่ผลผลิตที่ได้ กลับน้อยลงไปทุกรอบการปลูก อันนี้ชัดเจนว่า ในที่ดินของเรา ขาดธาตุรองธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชแล้ว

ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม หรือที่เรียกว่า ” จุลธาตุ ” นั้น โดยส่วนใหญ่หากใส่ทางดิน พืชจะดูดซึมไปใช้ได้ช้ากว่าฉีดพ่นทางใบ และพืชมักต้องการธาตุอาหารดังกล่าวในปริมาณไม่มากในดินที่เป็นด่างการใส่ธาตุอาหารรองธาตุอาหารเสริมทางดินจะให้ประโยชน์กับพืชน้อย เนื่องจากปุ๋ยทำปฏิกิริยากับดินและอยู่ในรูปที่ไม่เป็นประโยชน์

บางช่วงที่พืชขาดธาตุอาหารอยู่ในขั้นวิกฤติ การฉีดพ่นธาตุอาหารเข้าทางใบจะช่วยให้พืชฟื้นตัวได้เร็วกว่าการให้ทางดิน

เมื่อระบบรากพืชถูกทำลาย เนื่องจากโรคและแมลงหรือสภาพความชื้นในดินมีจำกัด จะส่งผลต่อระบบรากของพืข ในภาวะเช่นนี้ การให้ปุ๋ยทางดินจะทำให้พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้น้อย

และการใส่ปุ๋ยทางราก ลงในดินที่ไม่สมบูรณ์ พืชจะดูดไปใช้ได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องสูญเสียไปกับน้ำและอากาศ แต่ถ้าให้ปุ๋ยทางใบอย่างเพียวผง พืชจะดูดอาหารนำไปใช้ได้ทันที ทำให้พืชโตเร็วกว่า แข็งแรงมากกว่า และยังไม่ทำให้ดินเสีย ไม่อันตรายด้วย

แนะนำเกษตร ใช้สารอินทรีย์ เพียวผง เป็นตัวช่วยในการดูแลพืชในสวน ในไร่ของท่าน เพราะเพียวผงเป็นอาหารพืช ที่มีธาตุอาหารหลัก และธาตุอาหารรองครบถ้วน นอกจากจะทำให้พืชสามารถดูดซึมเพื่อสร้างการเจริญเติบโตแล้ว ช่วยเพิ่มผลผลิตให้มาก อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงดินให้มีคุณภาพดีขึ้น อีกด้วย

"แนะนำให้ใช้คู่กับ เพียวXเอ็กซ์ สารอินทรีย์กำจัดโรคแมลงศัตรูพืช ที่ช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืชได้ทุกชนิด และป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อราได้ดีอีกด้วย"

วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ
เพียงนำ เพียวXเอ็กซ์ 1 ซอง ผสมกับน้ำ 100 ลิตร สามารถฉีดพ่นได้ถึง 6 ไร่ ซึ่งราคาถูกมากเมื่อเทียบกับสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงที่เคยใช้ และที่สำคัญ ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม เพราะสกัดจากธรรมชาติ 100% ซึ่งเกษตรกรสามารถผสมกับสารชนิดอื่นได้ทุกชนิด จึงช่วยลดต้นทุนค่าแรงในการฉีด

หากช่วงที่มีการระบาดอย่างหนัก แนะนำฉีดเข้มขึ้นขึ้น หรือฉีดบ่อยขึ้นและติดต่อกัน อย่างน้อย 3 สัปดาห์ จะช่วยกำจัดไข่ของหนอนให้หมดไป และป้องกันการกลับมาเมื่อฉีดอย่างสม่ำเสมอ

______________________________________
สนับสนุนโดย : เพียวเอ็กซ์ สารอินทรีย์ป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช
www.greenpure.co.thwww.kasetpure.com
Line@kasetpure หรือคลิ๊ก http://line.me/ti/p/%40kasetpure

สามารถรับชมรายการเกษตรเพียวเพียวได้ที่ช่อง Psi 72 และที่ www.kasetnews.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ดูรายการย้อนหลังที่ www.youtube.com/kasetpurepure

#kasetnews #kasetnewsshop #เกษตรนิวส์ #ข่าวเกษตร #สินค้าเกษตร#ทำเกษตร #เกษตร #amazingthailand #เพียว1เพียว2 #เพียวผง #เพียวเอ็กซ์ #เพียวอาหารเสริมพืช #สินค้าเกษตรยอดนิยมอันดับ1 #สารอินทรีย์กำจัดแมลง #ตัวเดียวจบครบทุกการบำรุงพืช #ข้าว


ผู้เข้าชม : 1113